หลายเดือนหลังจากคำแถลงที่ทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างจีนและ NBA, China Central Television, CCTV กล่าวว่าพวกเขาไม่มีแผนที่จะกลับมาถ่ายทอดสดเกม NBA แม้ว่าจจะแข่งต่อหรือไม่ก็ตาม
ผลกระทบเริ่มต้นช่วงเริ่มฤดูกาล 2019/2020 ทีม NBA อยู่ในประเทศจีนสำหรับเกมอุ่นเครื่อง ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยทวีตจาก ดารีล โมเรย์ ผู้จัดการทั่วไปของ ฮิสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่ดูเหมือนจะเข้าข้างผู้ประท้วงในฮ่องกง ทวีตว่า “ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ขอยืนเคียงข้างฮ่องกง”
จีน มักจะมีชื่อเสียงในการไม่ปล่อยให้ประเทศอื่นมายุ่งเรื่องในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง เมื่อปีที่แล้วผู้ประท้วงเข้ายึดถนนของฮ่องกง เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากจีน ซึ่ง โมเรย์ ก็ได้ออกมาสนับสนุนทำให้รัฐบาลจีนไม่ปลื้มเรื่องนี้
อดัมซิลเวอร์ ผู้บริหารสูงสุดของ NBA ออกมาแสดงความเห็นหลังจาก โมเรย์ ลบทวีตโพสต์นั้นไปแล้วว่า โมเรย์ มีสิทธิ์ที่จะออกความเห็นตามความเห็นของเขา และความเห็นนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ NBA ในฐานะสมาคมหรือทีมต่าง ๆ
เรื่องนี้ส่งผลกระทบให้การทัวร์ของ แอลเอ เลเกอร์ส และ นิวยอร์ค เน็ตส์ ที่จีนไม่ได้รับผลตอบรับเหมือนที่คาด ไม่มีสื่อไหนเข้าไปถ่ายทอดสด และการยกเลิกการสัมภาษณ์ล่วงหน้าของ ซิลเวอร์ เป็นสองสัญญาณที่ชัดเจนว่า จีน กำลังแบน NBA
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซิลเวอร์ ได้แต่งตั้งให้ ไมเคิล มา ดำรงตำแหน่งซีอีโอของเอ็นบีเอไชน่าประเทศจีน เพื่อแก้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเอ็นบีเอและจีน ซึ่งพ่อของ มา เป็นผู้ก่อตั้งช่อง CCTV สปอร์ต ในจีน
แม้ว่าผู้คนจะล้มตายจากเหตุการที่ฮ่องกงมากแค่ไหน แต่ จีน ได้ออกแถลงการณ์ในหนังสือพิมพ์ของรัฐ ย้ำจุดยืนที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของชาติ เมื่อวันอังคารที่ หม่า เกาลี ได้ก้าวลงจากตำแหน่งในฐานะที่ปรึกษาสมาคมบาสเกตบอลจีน
ความสัมพันธ์ระหว่าง NBA และจีนนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง โดย ซิลเวอร์ รายงานว่า NBA สูญเสียเงินไปกว่า 300 ล้านดอลลาร์เนื่องจากไม่มีเกม NBA ออกอากาศในประเทศจีนจนถึงฤดูกาลนี้ การแสดงออกของจีนแสดงให้เห็นว่าความบาดหมางมันมากเกินจะกู่กลับในเร็วๆ นี้