เลอบรอน เจมส์ สร้างตำนานไว้กับหลายๆ ทีม แต่ที่เด่นชัดที่สุดคือการย้ายออกจาก คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ไป 7 ฤดูกาล ไมอามี่ ฮีต เพื่ออยู่กับ ดเวน เหวด เพื่อฟอร์มทีมกับ คริส บอช เป็นสามประสานของ NBA
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดเวน เหวด ตำนานของทีม ไมอามี่ ฮีต ได้เปิดพอดแคสต์ ‘Point Forward’ ว่าการชวน เลอบรอน เจมส์ จากคลีฟแลนด์เกิดขึ้นได้อย่างไร และวิธีที่พวกเขาสร้างทีม 3 อันดับแรกที่ไมอามี่ เหวด เล่าว่าเขาไม่เคยคิดที่จะเล่นกับ เลอบรอน เจมส์ เลยนอกจากเกม ออลล์ สตาร์ ความคิดที่จะอยู่ทีมเดียวกันนั้นมาภายหลังเขามาก
“มันไม่เคยข้ามความคิดของผม การเล่นในเกม All-Star หรือการเล่นเกมฤดูร้อนหรือการเล่นในกีฬาโอลิมปิกนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เล่นในฤดูกาล NBA ด้วยกัน? นั่นเป็นวิธีที่แตกต่างกัน … ผมไม่ได้คิดอะไรเลยจนกระทั่งเราเริ่มเข้าสู่กระบวนการของหน่วยงานอิสระ” เหวดเล่าผ่านพอดคาสต์
จากนั้นเหวดก็เน้นย้ำว่า ‘The King’ ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายและอยู่ในจุดสูงสุดของเกมได้อย่างไร แต่เขาไม่มีอะไรจะแสดงให้เห็นเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล และมันก็รบกวนจิตใจเขา เขาต้องการคว้าแชมป์เอ็นบีเอ เมื่อเขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถทำเองได้ เขาจึงเข้าร่วมฮีต
“ในขณะนั้นเลอบรอนเป็น MVP, แชมป์ทำคะแนน, สิ่งเหล่านี้ทั้งหมด รางวัลส่วนบุคคลเหล่านั้นเป็นสิ่งเสพติด แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณจะไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล เขาต้องการอะไรมากกว่าแค่รางวัลของแต่ละคน … และเขาก็ตระหนักว่าเขาทำเองไม่ได้” เวดกล่าวเสริม
ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมฮีตในปี 2010 เลอบรอนและเวดเคยเล่นด้วยกันในโอลิมปิกปี 2004 และ 2008 ซึ่งเป็นตัวแทนของ USA พวกเขายังให้ความสำคัญในเกม All-Star หลายเกม
ในขณะที่ เหวด เป็นแชมป์และ MVP รอบชิงชนะเลิศแล้ว เลอบรอน ก็เป็นแชมป์ให้คะแนนและ MVP ประจำฤดูกาล.. แพต ไรลี่ย์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการบาสเกตบอลของ ฮีต ตัดสินใจที่จะเพิ่มความยาวมากขึ้นในขณะที่เขาเพิ่ม ครอส บอช ในการมิกซ์ทำให้ทั้งสามคนที่โดดเด่นน่าจะเป็น จำได้หลายปีและหลายปีต่อ ๆ ไป
พวกเขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศในฐานะสามคนเป็นครั้งแรกในปี 2011 แต่พวกเขาก็ปลิวว่อนไปด้วย ดัลลัส แมฟเวอริคส์ ของ เดิร์ค โนวิตซกี้ มันเป็นหนึ่งในอารมณ์เสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอ อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนได้มันมารวมกันในปี 2012 เมื่อพวกเขาชนะการแข่งขัน NBA ในที่สุดและเดินทางอีกครั้งในปี 2013 และกลายเป็น บิ๊กทรี ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ NBA