กลุ่ม เฟร็ดคิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ TFG ตกลงเข้าซื้อสโมสร เอฟเวอร์ตัน ทีมพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ หลังจากดำเนินการเอกสารที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว
ตามรายงานในท้องถิ่นของอังกฤษเมื่อวันจันทร์ TFG ใกล้จะสรุปข้อตกลงในการซื้อหุ้นร้อยละ 94 ของ ฟาร์ฮัด โมชิริ ในทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์แล้ว
แถลงการณ์ร่วมจากบริษัทของ ฟาร์ฮัด โมชิริ และ TFG เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่ากลุ่ม เฟร็ดคิน และ บลู เฮเวน โฮลดิ้งส์ ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขการขายหุ้นส่วนใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งปัจจุบันเป็นของ บลู เฮเวน โฮลดิ้งส์ ของ ฟาร์ฮัด โมชิริ
ความคืบหน้าล่าสุดนี้ถือเป็นจุดพลิกผันของเรื่องราวการเข้าซื้อกิจการ เอฟเวอร์ตัน ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยหนี้ภายนอกของ เอฟเวอร์ตัน เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 600 ล้านปอนด์ (798 ล้านดอลลาร์ หรือ 718 ล้านยูโร) เนื่องจากพวกเขาพยายามหาวิธีจัดหาเงินทุนสำหรับค่าใช้จ่ายประจำวันและโครงการสนามกีฬาแห่งใหม่
ในขณะเดียวกัน 200 ล้านปอนด์ (266 ล้านดอลลาร์ หรือ 239 ล้านยูโร) ของตัวเลขที่เสนอเป็นหนี้อยู่กับ TFG ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นเจ้าของสโมสร โรม่า ของอิตาลีด้วย และอยู่ในขอบข่ายการเทคโอเวอร์ของเอฟเวอร์ตันมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังจากที่ MSP Sports Capital เข้าเทคโอเวอร์ และ 777 Partners ของไมอามีล่มสลาย ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุด
มีรายงานเมื่อช่วงซัมเมอร์ว่า ลียง-เท็กซ์เตอร์ เจ้าของสโมสรฝรั่งเศสได้เข้าเจรจาพิเศษกับ โมชิริ เกี่ยวกับข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม การเจรจาดังกล่าวไม่ได้ผลใดๆ เป็นผลจากการที่ อีเกิ้ล ฟุตบอล กรุ๊ป ของ เท็กซ์เตอร์ เข้าถือหุ้น 45 เปอร์เซ็นต์ใน คริสตัล พาเลซ ซึ่งถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่กฎของพรีเมียร์ลีกห้ามไว้
ขณะนี้ กลุ่ม เฟร็ดคิน หวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ เนื่องจากผู้เสนอราคารายอื่นๆ ล้มเหลวในการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรจากเมอร์ซีย์ไซด์ ซึ่งเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนัก
ข้อตกลงใดๆ สำหรับ TFG ในการซื้อเอฟเวอร์ตันยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งโดยปกติคาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีนี้