ฌอน ไดช์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เรียกร้องให้นักเตะของเขากลับมามีกำลังใจและกลับมาสนับสนุนแฟนบอลอีกครั้ง หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างย่ำแย่
กุนซือวัย 54 ปี ซึ่งเซ็นสัญญาจนถึงฤดูร้อนปี 2027 กลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่สามของฟอเรสต์ภายในเวลาเพียงหกสัปดาห์ แทนที่อันจ์ ปอสเตโคกลู ซึ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันอังคารหลังจากผลงานย่ำแย่
ไดช์ ซึ่งเริ่มต้นอาชีพในอะคาเดมีของฟอเรสต์ในช่วงทศวรรษ 1980 แต่ไม่เคยได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ กล่าวว่าเขามุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความสามัคคีที่สนามซิตี้ กราวนด์ เขาอธิบายว่าทีมจำเป็นต้องกลับมาอยู่ในจุดยืนเดิมและสร้างความภาคภูมิใจให้กับแฟนบอล
เขาเสริมว่าแฟนบอลฟอเรสต์มีความยุติธรรมเสมอมา และทีมคงไม่ต้องใช้เวลามากในการกลับมาเชื่อมโยงกับพวกเขา แต่ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยผลงานที่ดีขึ้น
แฟนบอลฟอเรสต์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยช่วงเวลาสั้นๆ ของปอสเตโคกลูต้องจบลงท่ามกลางเสียงตะโกนว่า “นายโดนไล่ออกตั้งแต่เช้า” ในเกมยูโรปาลีกที่พ่ายมิดทิลแลนด์ 3-2
กุนซือชาวออสเตรเลียคุมทีมได้เพียง 39 วัน หลังจากการปลดนูโน่ เอสปิริโต ซานโต ออกไปเมื่อต้นเดือนกันยายน แม้จะจบฤดูกาลที่แล้วด้วยอันดับที่ 7 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดของพวกเขาในพรีเมียร์ลีกในรอบสามทศวรรษ แต่ปัจจุบันฟอเรสต์รั้งอันดับที่ 18 โดยไม่เคยชนะใครเลยนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล
ความท้าทายแรกของไดช์คือเกมยูโรปาลีกกับปอร์โตในวันพฤหัสบดี ตามด้วยเกมพรีเมียร์ลีกเยือนบอร์นมัธในวันอาทิตย์
ความเปราะบางในแนวรับของฟอเรสต์ยังคงเป็นข้อกังวลสำคัญ โดยทีมไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้ 20 นัด นับตั้งแต่เอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเดือนเมษายน
ผู้จัดการทีมคนใหม่กล่าวว่าพื้นฐานต้องมาก่อน โดยเน้นย้ำว่าความแข็งแกร่ง ความฟิต และการจัดระเบียบเป็นสิ่งสำคัญ
เขาตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้ทีมจะมีนักเตะพรสวรรค์มากมาย แต่การหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างอิสระในการเล่นเกมรุกและวินัยในการเล่นเกมรับจะเป็นกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์
อดีตกุนซือเอฟเวอร์ตันและเบิร์นลีย์ยังได้กล่าวถึงการกลับมาสู่สโมสรอันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขา
เขายอมรับว่ารู้สึกแปลกแต่ก็คุ้มค่าที่ได้กลับมา และเสริมว่าเขามักจะสงสัยว่าวันหนึ่งเขาอาจจะได้กลับมาที่สนามซิตี้กราวด์ในฐานะผู้จัดการทีมหรือไม่ เขาตั้งข้อสังเกตว่าฟอเรสต์จำเป็นต้องค้นพบแรงผลักดันและความคงเส้นคงวาที่เคยทำให้พวกเขาติดท็อปซิกซ์ของฟุตบอลอังกฤษอีกครั้ง