ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ ดูเหมือนว่ากำลังจะคว้าทั้ง 2 รางวัลอย่าง Golden Ball และ Golden Boots ในส่วนของรางวัลที่จะมอบให้กับดาวรุ่งอายุต่ำกว่า 21 ปีที่ทำผลงานเข้าตามากที่สุดในลีกสูงสุดของยุโรป นั่นก็คือ Golden Boy โดยรางวัลนี้เป็นรางวัลที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์หัวกีฬาชื่อดังของอิตาลีอย่าง Tuttosport ตั้งแต่ปี 2003 จากนั้นก็มีหนังสือพิมพ์หัวกีฬาชื่อดังมากมายในยุโรปอาทิ l’Equipe, Marca และ The Times
โดยผู้คว้ารางวัล Golden Boy ในปีนี้ คือ เจา เฟลิกซ์ ดาวรุ่งชาวโปรตุเกส สังกัดทีมแอตเลติโก้ มาดริด ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สายเลือดใหม่ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ในตัวของ เจา เฟลิกซ์ คือ เขาสามารถคว้ารางวัลนี้มาครองได้ ในขณะที่โรนัลโด้เองยังไม่เคยได้สัมผัสรางวัลนี้เลยสักครั้ง อีกทั้งคู่แข็งคนสำคัญของโรนัลโด้อย่าง เมสซี่ นั้นเคยคว้ารางวัลนี้มาแล้วในก่อนหน้านี้ หากย้อนไปดูผู้ที่เคยคว้ารางวัลนี้มาครองได้ในปรก่อนๆ อย่าง เชส ฟราเบรกัส, พอล ป็อกบา และ คิลียัน เอ็มบั้ปเป้ รวมไปถึงนักเตะเลือดแซมบ้าตัวจี๊ดของแมนฯยูไนเต็ด อย่าง แอนเดอร์สัน รวมทั้งอดีตดาวรุ่งชาวโปรตุเกสเช่นกันอย่าง เรนาโต้ ซานเชส ที่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต่างประสบความสำเร็จในวงการลูกหนังกันอย่างเห็นได้ชัด
เจา เฟลิกซ์ นั้นย้ายมาซบรังตราหมีจากเบนฟิก้า เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาด้วยค่าตัวสูงกว่า 113 ล้านปอนด์ และหลังจากที่เข้ามาร่วมทีมแอตเลติโก้ เขาก็ทำผมงานได้อย่างยอดเยี่ยมคุ้มค่าตัวมาต่อเนื่อง แม้ว่าจะยิงไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น แต่ผลงานโดยภาพรวมของเขากลับเป็นที่ประจักษ์ว่า เขาคือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมนั้นมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมทั้งในลา ลีก้า สเปน และในเวทียุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และหากย้อนไปดูผลงานตอนที่เขาอยู่ร่วมทีมเบนฟิก้า ในลีกสูงสุดของโปรตุเกส เขาสามารถยิงได้ถึง 15 ประตู แม้ว่านั้นจะเป็นฤดูกาลแรกที่เขาได้โอกาสลงเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ ซึ่งข้อเด่นของเฟลิกซ์ คือ เขาเป็นได้ทั้งตัวรุกที่ยอดเยี่ยม, ผู้ส่งบอลที่ชาญฉลาด อีกทั้งยังสามารถเล่นเกมส์รับตัดเกมส์ได้อีกด้วย และแม้จะอายุเพียง 19 ปี เท่านั้น เฟลิกซ์ ก้าวไปติดทีมชาติโปรตุเกสชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถซัดประตูในนามทีมชาติได้ แต่ด้วยพํฒนาการแบบก้าวกระโดด ทำให้ได้รับสมญานามว่านี่แหละคือ อนาคต คริสเตียโน โรนัลโด้ รายต่อไป
เจา เฟลิกซ์ ได้รับคะแนนการโหวตให้ซิวตำแหน่งนี้ไปครองด้วยคะแนน 332 โหวต ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถชนะรางวัลนี้ได้ เนื่องจากลีกในยุโรปนั้นต่างอุดมไปด้วยดาวรุ่งฝีเท้าแพรวพราว อันดับ 2 ตกเป็นของ ปีกดาวรุ่งชาวอังกฤษ สังกัดทีมดอร์ทมุนด์ อย่าง จาดอน ซานโช่ ที่มีผลงานสุดยอดไม่แพ้กันทั้งในบุนเดสลีก้าและระดับยุโรป ตามมาด้วยอันดับ 3 อย่าง ไค ฮาเวิร์ซ ดาวรุ่งเยอรมันของเลเวอร์คูเซ่น, อันดัน 4 ได้แก่ เออร์ลิง ฮาลันด์ ดาวรุ่งนอร์วีเจี้ยน สังกัดทีมซัลซ์บวร์ก และที่ 5 นั้น แมททิจ เดอ ลิจ์ ดาวรุ่งดัตช์ ของยูเวนตุส คว้าไปครอง
ติดตามผลงานขอเหล่าดาวรุ่งตัวจี๊ดได้พร้อสนุกไปกับดาฟาเบท
เมื่อช่วงพักเบรกทีมชาติครั้งสุดท้ายของปี 2024 สิ้นสุดลง ฟุตบอลลีกจะกลับมาแข่งขันกันต่อได้อีกครั้ง โดยจะหยุดชะงักไปจนถึงเดือนมีนาคม 2025 โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงช่วงฤดูหนาวและช่วงเทศกาลปีใหม่ พรีเมียร์ลีกจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันเสาร์ โดยเชลซีจะออกไปเยือนเลสเตอร์ ซิตี้ในวันเสาร์ที่จะเริ่มต้นก่อนกำหนด แต่จะมีเกมให้เล่นอีก 6 เกม โดยจะแบ่งเป็น 3… อ่านเพิ่มเติม
บาร์เซโลน่า สโมสรในลาลีกาของสเปน อาจต้องทนกับการขาดหายของ ลามีน ยามาล ปีกชาวสเปน แทนที่จะต้องขาดตัวไปนานถึง 2 สัปดาห์ ตามที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ หลังจากมีรายงานใหม่ระบุว่าแข้งวัย 17 ปีรายนี้ยังไม่ได้ลงสนามในเกมลาลีกานัดสุดท้ายของบาร์เซโลน่า ก่อนช่วงพักเบรกทีมชาติ… อ่านเพิ่มเติม
บาเยิร์น มิวนิค ได้พัฒนาศักยภาพของผู้รักษาประตูในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ นูเบล โดดเด่นในช่วงที่ยืมตัวไปอยู่กับโมนาโก โดยเขาคาดว่าจะออกจากมิวนิคในปี 2023 แต่บาเยิร์นตัดสินใจปล่อยยืมตัวเขาไปให้กับเฟาเอฟบี สตุ๊ตการ์ท ตอนนี้ นูเบลทำผลงานได้ดีกับสตุ๊ตการ์ท ซึ่งส่งผลให้เขาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรในเดือนเมษายน ก่อนจะกลับมาที่สตุ๊ตการ์ทเพื่อยืมตัวอีกครั้ง ขณะเดียวกัน… อ่านเพิ่มเติม
ตั้งแต่ย้ายจาก โมนาโก มาอยู่กับ สตุ๊ตการ์ต เมื่อตอนยังเด็ก เอ็นโซ มิลล็อตก็เติบโตได้ดีกับทีมบุนเดสลีกา ตั้งแต่ย้ายออกจากสโมสรบ้านเกิดเมื่อปี 2021 เขาได้ลงเล่นให้กับทีมบุนเดสลีกา 86 นัด ยิงได้ 15 ประตู… อ่านเพิ่มเติม
ทอมมี่ ฟิวรี เตรียมกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งในเดือนมกราคม 2025 โดยเขาคาดว่าจะเผชิญหน้ากับ ดาร์เรน ทิลล์ อดีตนักสู้ UFC ที่ Co-op Live ในเมืองแมนเชสเตอร์ในวันที่ 18 มกราคม… อ่านเพิ่มเติม
เยอรมัน พลาดโอกาสคว้าชัยชนะในเกมเยือนฮังการีในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเนชั่นส์ลีก หลังจากเสียประตูตีเสมอในนาทีที่ 99 จากจุดโทษของโดมินิก โซบอสไล จูเลียน นาเกลส์มันน์ เปลี่ยนผู้เล่นถึง 9 คนจากเกมที่เยอรมนีเอาชนะบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 7-0 ในเกมที่แล้ว โดยเกมนี้ยืนยันว่าไม่มีผลการแข่งขันก่อนเริ่มเกม และพวกเขาก็เล่นได้ไม่ดีในครึ่งแรก… อ่านเพิ่มเติม