ประตูตีเสมอในนาทีที่ 94 ของเดวีส์ทำให้บาเยิร์น มิวนิค รอดพ้นจากการพลิกแซงจากเซลติกได้สำเร็จ และผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ของแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ หลังจากเสมอกัน 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
บาเยิร์นออกสตาร์ทได้อย่างแข็งแกร่งและเกือบทำประตูแรกได้สำเร็จหลายครั้งภายใน 10 นาทีแรก แต่เซลติกเองก็มีลุ้นที่จะได้ประตูเช่นกัน และคัลลัม แม็คเกรเกอร์ก็ผิดหวังที่ไม่สามารถทำประตูได้สำเร็จหลังจากผ่านไปเพียง 7 นาที
นิโกลาส์ คูน ยิงประตูออกไปได้ และไดเซน มาเอดะก็ยิงออกไปกว้างหลังจากนั้นไม่นาน ทำให้เซลติกพลาดโอกาสทองสองครั้งในช่วงต้นเกม แฮร์รี เคน ยิงไปโดนคานประตูให้กับบาเยิร์น ซึ่งแม้จะยังนำอยู่เมื่อจบครึ่งแรก แต่ชัดเจนว่าไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ตัดสินเป่าหยุดครึ่งแรก
เซลติกเน้นเกมรับมากขึ้นหลังเริ่มเกมใหม่ และเกมรุกก็ดีขึ้นไปอีก หลังจากคูน อดีตผู้เล่นบาเยิร์นทำประตูให้ทีมสกอตแลนด์ขึ้นนำในคืนนั้น โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากแนวรับที่ย่ำแย่ของยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีกาไม่นานหลังจากครบ 60 นาที
เลออน โกเร็ตซ์ก้าควรจะฟื้นคืนความได้เปรียบให้กับบาเยิร์นได้อีกครั้งในอีก 15 นาทีต่อมา แต่กองกลางรายนี้ทำได้แค่โหม่งบอลไปเฉียดเสาของแคสเปอร์ ชไมเคิลอย่างน่าเสียดาย เลรอย ซาเน่ก็ทำตามในไม่ช้าหลังจากนั้น โดยยิงบอลออกไปนอกกรอบประตู
เมื่อเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วินาทีในช่วงทดเวลา ความมุ่งมั่นของเซลติกก็ถูกทำลายลงในที่สุด ชไมเคิลรับลูกโหม่งจากระยะเผาขนของโจชัว คิมมิชได้ แต่ไม่สามารถทำอะไรกับลูกที่เด้งกลับมาได้ ซึ่งเดวีส์ก็ยิงข้ามเส้นประตูไปได้อย่างโชคดีในช่วงเตะสุดท้ายของเกม ทำให้เสมอกันในคืนนั้นและคว้าชัยชนะด้วยสกอร์รวม 3-2
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้จะเป็นความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดสำหรับเซติช เพราะพวกเขามีโอกาสสร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ได้เพียงเล็กน้อย
ส่วนบาเยิร์น หลังจากที่ผ่านเข้ารอบได้แล้ว พวกเขาหวังอย่างยิ่งว่าจะได้เข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ยุโรปอีกขั้น