เบลเยียม ลิ่วเข้ารอบน็อคเอาท์ ยูโร 2024 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากวันพุธเสมอกับ ยูเครน 0-0 และเตรียมเจอกับ สาธารณรัฐเช็ก ในรอบต่อไป
โดมินิโก้ เทเดสโก้ ได้เปรียบเรื่องประตูได้เสีย หลงัจากที่กลุ่ม อี มี 4 คะแนนเท่ากันหมดทั้ง 4 ทีม
ขณะที่ โรมาเนีย เสมอกับ สโลวาเกีย 1-1 เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม ส่วน สโลวาเกีย จบอันดับที่ 3
โรเมลู ลูกากู โชวป์ฟอร์มไม่ออก เช่นเดียวกับ เควิน เดอ บรอยน์ ที่พยายามยิงก็ไม่ผ่านมือ อนาโตลี ตรูบี ผู้รักษาประตูยูเครนเซฟเอาไว้ได้หมด
ยูเครน โดนบุกหนัก ในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตามพวกเขายังมีโอกาสจบสกอร์อยู่บ้างจาก โรมัน ยาเรมชุค และ อาร์เต็ม ดอฟบีค ที่ได้ซัดจ่อๆ แต่ก็ไม่เป็นประตู
ด้าน เบลเยี่ยม โอกาสจบกสอร์ในเกมนี้เยอะจริงๆ เดอ บรอยน์ ผสานงานกับ ลูกากู ที่พลาดง่ายๆ กันไปเอง
เบลเยียม เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่ ยานนิค การ์ราสโก้ ได้ซัดเต็มข้อแต่เซฟของ ตรูบิน แต่บอลมาเข้าทาง โดกู ที่พยายามเลี้ยงหนแนวรับ ยูเครน และซัดเต็มแรงแต่ติดบล็อก
นาทีที่ 83 ยูเครนได้ เตะมุม และ รุสลัน มาลินอฟสกี้ ตั้งใจหลอกยิงโดยบอลพุ่งกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ คูน คาสเทลส์ ไหวตัวทันกลับมาป้องกันเอาไว้ได้หวุดหวิดทำให้ เบลเยียม รอดจากการเสียประตู
ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ยูเครน พยายามจะทำประตูให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาต้องตกรอบ แต่สุดท้ายไม่สำเร็จ จบเกมเสมอกันแบบไร้สกอร์ ทำให้ เบลเยียม เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนนคว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วน ยูเครน มีแต้มเท่ากัน แต่ประตูได้เสียติดลบ 2 (-2) รั้งอันดับ 4 ต้องกลับบ้านอย่างเจ็บปวด
อย่างไรก็ตามเกมนี้ เบลเยียม โดนโจมตีอย่างหนัก หลังจากทำได้แค่ยิงเข้ากรอบ 4 จากความพยายาม 10 ครั้ง ค่าเฉลี่ยจิงเข้ากรอบในทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขาทำได้แค่ 0.28 ครั้งต่อเกม
ลูกากู ยังคงปืนฝืดต่อไป ยิงเข้าไป 2 ลูก แต่โดนริบประตู และหาโอกาสสกอร์ได้แค่สองครั้งเท่านั้น แต่เชือว่าอาจจะเห็นเขาทำได้ดีขึ้นในรอบต่อไป