เยอรมนีพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะอิตาลีได้ 2-1 ในเลกแรกและขึ้นนำในเลกแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
โจชัว คิมมิช กองกลางของบาเยิร์นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำประตูทั้งสองลูกจนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาชนะในเลกแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
คิมมิชเปิดบอลได้อย่างยอดเยี่ยมจากแบ็กขวา โดยสองครั้งนั้นทิม ไคลน์เดียนส์ทและเลออน โกเร็ตซ์ก้าโหม่งเข้าประตูหลังจากที่อิตาลีขึ้นนำในครึ่งแรก
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองทีมไม่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกมาได้เลยนับตั้งแต่ก่อตั้งลีกนี้มา แต่พวกเขาก็หวังว่าจะเปลี่ยนแปลงความสำเร็จนี้ได้ในปีนี้
ทั้งสองทีมจบอันดับสามในสองฤดูกาลล่าสุด แต่เยอรมนียังไม่สามารถผ่านรอบแปดทีมสุดท้ายไปได้
ซานโดร โตนาลี ยิงประตูแรกได้สำเร็จในนาทีที่ 9 เมื่อมัตเตโอ โปลิตาโน เปิดบอลมาโดนมือของมอยเซ่ คีน แต่กลับวิ่งไปหากองกลางของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เข้ามาปัด
แต่ผู้รักษาประตูโอลิเวอร์ เบามันน์ ช่วยให้เยอรมนีอยู่ในเกมได้ และปล่อยให้คิมมิชได้ครองเกมหลังหมดครึ่งแรก
ไคลน์เดียนส์ท ลงเล่นในครึ่งหลัง โหม่งบอลผ่านมือจานลุยจิ ดอนนารุมม่า ในนาทีที่ 49
คิมมิช โหม่งบอลเข้ากลางให้โกเร็ตซ์ก้า โหม่งออกไปในนาทีที่ 69 แต่กองกลางรายนี้โหม่งบอลได้สำเร็จในอีกเจ็ดนาทีต่อมา โดยเปิดลูกเตะมุมเข้าไปทำประตูสำคัญก่อนเกมเลกที่สองในวันอาทิตย์
ดอนนารุมม่าไม่ได้ทำผิดอย่างเห็นได้ชัดสำหรับประตูทั้งสองลูก แต่ดูเหมือนว่าเยอรมนีจะใช้ประโยชน์จากความไม่สามารถรับมือกับลูกครอสของเขา ทีมเยือนส่งบอลเข้าไป 21 ลูก รวมถึง 11 ลูกจากคิมมิช ส่งผลให้ทั้งสองประตูเกิดขึ้น คิมมิชทำแอสซิสต์ไปแล้ว 13 ครั้งจาก 27 ประตูที่เยอรมนีทำได้ตั้งแต่เปิดตัว
แม้ว่ามือหนึ่งของโลกอิตาลีจะไม่เคยดูสบายนัก แต่บาวมันน์กลับดูตรงกันข้าม
เขารับมือโทนาลีและคีนได้อย่างยอดเยี่ยมในนาทีที่ 1-0 จากนั้นก็เซฟลูกยิงของราสปาโดรีได้ดีด้วยเท้าไม่นานหลังจากเยอรมนีตีเสมอได้ โดยจบเกมด้วยการเซฟไป 5 ครั้ง ขณะที่ดอนนารุมม่าเซฟได้ 2 ครั้ง
ทุกสายตาจับจ้องไปที่เลกที่สองในเยอรมนีสัปดาห์หน้า โดยเกมที่สองจะเต็มไปด้วยแอคชั่นมากขึ้น