เรอัล มาดริด ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ บาร์เซโลน่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจนไล่จี้จ่าฝูงลาลีกามาเหลือแต้มเดียวหลังเอาชนะเกตาเฟ่ 2-0 ที่ เอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ราชันชุดขาวคว้าชัยในบ้านติดต่อกันเป็นนัดที่ 16 เหนือเกตาเฟ่ และถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะที่สุดสำหรับทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ
เกมดังกล่าวไม่ง่ายสำหรับ เรอัล มาดริด เลย เนื่องจากพวกเขาขาดผู้เล่นหลักหลายคนเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ เกตาเฟ่ซึ่งชนะมาแล้วสองนัดก่อนหน้านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ดื้อรั้น โดยจำกัดโอกาสของ เรอัล มาดริด ได้เพียงเล็กน้อยในช่วง 25 นาทีแรก อย่างไรก็ตาม เกมกลับพลิกกลับมาเป็นฝ่ายเรอัลมาดริดได้เปรียบก่อนจะถึงนาทีที่ 30 เมื่อ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ถูกอัลลัน นีออมลากล้มลงในกรอบเขตโทษ ส่งผลให้ต้องเตะจุดโทษ
จู๊ด เบลลิงแฮม ก้าวขึ้นมารับหน้าที่ยิงจุดโทษ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและซัดบอลเข้าประตู ประตูของนักเตะชาวอังกฤษดูเหมือนจะจุดประกายให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อนักเตะชาวฝรั่งเศสยิงเพิ่มให้เรอัล มาดริดขึ้นนำเป็น 2-0 เพียงไม่กี่นาทีต่อมาด้วยการจบสกอร์ที่สวยงามจากระยะ 20 หลา ประตูของเอ็มบัปเป้เป็นประตูสำคัญที่ทำให้เกตาเฟ่ไม่สามารถสร้างโอกาสได้สำเร็จในครึ่งหลัง
แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจหลายครั้ง รวมทั้งการตัดสินให้จุดโทษถูกพลิกกลับด้วย VAR แต่เรอัล มาดริดก็ยังสามารถคว้าชัยชนะมาได้และขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 1 ของตารางคะแนนลาลีกา โดยตามหลังบาร์เซโลนาเพียงแต้มเดียว ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับทีมของอันเชล็อตติ ซึ่งประสบปัญหาการบาดเจ็บในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเกมที่เหลืออยู่เหนือบาร์เซโลนา เรอัล มาดริดมั่นใจว่าจะกดดันคู่แข่งได้อย่างเต็มที่ในการลุ้นแชมป์
ชัยชนะเหนือเกตาเฟ่ทำให้เรอัล มาดริดสามารถเอาชนะคู่แข่งในบ้านได้เป็นนัดที่ 16 ติดต่อกัน และขยายสถิติที่น่าประทับใจของพวกเขาที่เอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2566 มีเพียงบาร์เซโลน่าเท่านั้นที่เอาชนะเรอัล มาดริดในบ้านในลีกได้ และทีมของอันเชล็อตติก็หวังที่จะรักษาฟอร์มอันแข็งแกร่งของพวกเขาเอาไว้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า