การแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของเอซี มิลาน จบลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากเสมอกับเฟเยนูร์ด 1-1 ที่ซาน ซิโร่ แม้จะตามตีเสมอได้ตั้งแต่นาทีที่ 1 แต่มิลานก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบนี้ได้ และท้ายที่สุดก็แพ้ไป 2-1
เกมเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมาลิค เทียว โหม่งบอลไปที่เสาไกลแล้วโหม่งข้ามกรอบเขตโทษ ซานติอาโก้ กิเมเนซ อดีตนักเตะของเฟเยนูร์ด โหม่งทำประตูตีเสมอให้กับทีม เฟเยนูร์ด ที่นำอยู่ 2-0 จากเกมเลกแรก
มิลานครองเกมได้เหนือกว่าในครึ่งแรก โดย ชูเอา เฟลิกซ์ เกือบทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ทิมอน เวลเลนรอยเทอร์ ผู้รักษาประตูของเฟเยนูร์ด เซฟได้อย่างน่าประทับใจเพื่อป้องกันไม่ให้เฟลิกซ์หลุดมือ ทีมจากเนเธอร์แลนด์ตั้งหลักได้ในช่วงครึ่งแรก และจัดการหยุดเกมรุกของมิลานได้ในครึ่งหลัง
เมื่อดูเหมือนว่ามิลานกำลังได้เปรียบ หายนะก็มาเยือน ธีโอ เอร์นานเดซโดนไล่ออกจากสนามด้วยใบเหลืองใบที่สอง ทำให้มิลานเหลือผู้เล่น 10 คนในสนาม ใบแดงดูเหมือนจะทำให้มิลานหมดแรง และเฟเยนูร์ดก็ฉวยโอกาสจากสถานการณ์นั้น
เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึง 20 นาที ฮูโก้ บูเอโน่ก็เปิดบอลเข้าหัวของฆูเลียน คาร์รันซาที่โหม่งเข้าประตูจากระยะ 6 หลา ประตูนี้ทำให้เฟเยนูร์ดขึ้นนำ 2-1 และมิลานก็ไม่สามารถตอบโต้ได้
ทีมเยาวชนของเฟเยนูร์ดแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความสงบนิ่งอย่างน่าทึ่งในการรักษาชัยชนะเอาไว้ได้ ทีมจากเนเธอร์แลนด์จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับเอซี มิลาน ซึ่งตอนนี้พวกเขาจะต้องมุ่งเน้นไปที่การแข่งขันเซเรียอาเพื่อผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้า แม้จะผิดหวัง แต่มิลานก็สามารถภูมิใจกับผลงานของพวกเขาที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ในอดีตได้
ต่อไปนี้เอซี มิลานจะมุ่งความสนใจไปที่เซเรียอา ซึ่งปัจจุบันพวกเขารั้งอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง โดยมี 41 คะแนน ห่างจากพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก 2 อันดับ