เรอัล โซเซียดาด และ เรอัล มาดริด เตรียมดวลกันในเลกแรกของรอบรองชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ โดยโซเซียดาดหวังจะใช้ความได้เปรียบในบ้านคว้าชัยชนะที่สำคัญให้ได้ เจ้าบ้านกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง โดยชนะติดต่อกัน 5 เกมในสนามของตัวเองในทุกรายการ และตั้งเป้าที่จะชนะรวด 6 เกม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำได้มา 5 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม สถิติของโซเซียดาดที่เจอกับ เรอัล มาดริด ถือว่าห่างไกลจากความน่าประทับใจ โดยชนะเพียง 3 เกมจาก 18 เกมหลังสุดในบ้าน แม้จะเป็นเช่นนั้น อิมานอล อัลกวาซิล ผู้จัดการทีมโซเซียดาด ก็ได้แรงบันดาลใจจากชัยชนะในโกปา เดล เรย์ 2019/20 ของทีม โดยพวกเขาเอาชนะ เรอัล มาดริด 4-3 ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ในทางกลับกัน เรอัล มาดริดจะพยายามหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ซ้ำรอยเดิมในขณะที่พวกเขาไล่ล่าความสำเร็จครั้งที่ 21 ในโกปา เดล เรย์ สโมสรตามหลังบาร์เซโลนา (31) และแอธเลติก บิลเบา (24) ในรายชื่อผู้ชนะโกปา เดล เรย์ตลอดกาล แต่คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความสำเร็จซ้ำรอยในปี 2022/23 ได้
อันเชล็อตติมีสถิติส่วนตัวที่แข็งแกร่งในการเจอกับโซเซียดาด โดยชนะมาแล้ว 8 นัด (เสมอ 1 แพ้ 2) โดยทีมของเขายิงได้อย่างน้อย 2 ประตูใน 8 นัดจากจำนวนนั้น ฟอร์มล่าสุดของเรอัล มาดริดก็ถือว่าน่าประทับใจเช่นกัน โดยทีมไม่แพ้ใครมา 6 นัดติดต่อกันในทุกรายการ (ชนะ 4 เสมอ 2)
แนวรุกของเรอัล มาดริด นำโดยซูเปอร์สตาร์อย่างคาริม เบนเซม่าและลูก้า โมดริช จะเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความหวังของโซเซียดาดในการคว้าชัยชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมดริช โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิงวอลเลย์ระยะไกลสุดสวยใส่จิโรน่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูให้กับลอส บลังโกสนานที่สุด
โซเซียดาดต้องอาศัยผู้เล่นอย่างทาเคฟุสะ คุโบะ เพื่อสร้างผลงานกับทีมเก่าของพวกเขา คุโบะยิงประตูใส่เลกาเนสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับมีสถิติที่ไม่ดีนักเมื่อเจอกับเรอัล มาดริด โดยยิงได้แค่ประตูเดียวจากการพบกัน 11 ครั้งก่อนหน้านี้
เกมนี้จะเป็นเกมที่น่าตื่นเต้น โดยทั้งสองทีมต้องการคว้าความได้เปรียบที่สำคัญก่อนเกมนัดที่สอง โซเซียดาดหวังว่าจะใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านให้เต็มที่ ขณะที่เรอัล มาดริดต้องอาศัยแนวรุกที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์เพื่อทำลายแนวรับของเจ้าบ้าน