คริสเตียโน โรนัลโด้ ลงมาเป็นตัวสำรองทำประตูชัยให้โปรตุเกสเอาชนะสกอตแลนด์ 2-1 ส่งผลให้สกอตแลนด์ต้องพ่ายแพ้อีกครั้งในช่วงท้ายเกม
แข้งวัย 39 ปี ซึ่งลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 2022 เสริมประตูจากบรูโน่ แฟร์นันเดส หลังจากสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำประตูให้สกอตแลนด์ขึ้นนำตั้งแต่ช่วงต้นเกม
แฟนบอลเจ้าบ้านตะลึงไม่แพ้แนวรับของโปรตุเกส เมื่อแม็คโทมิเนย์แอบเข้ามายิงประตูจากด้านหลัง ซัดลูกครอสของเคนนี่ แม็คลีน ผ่านมือดิโอโก้ คอสต้าที่ยืนอยู่หลังเสาประตูไปได้ภายในเวลาเพียง 7 นาที
เจ้าบ้านมีโอกาสกลับเข้าสู่เกมอย่างแน่นอน แองกัส กันน์ เซฟลูกยิงของราฟาเอล เลเอาได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งยิงไปติดเสาซ้ายหลายครั้งเช่นกัน
แม้ว่าสกอตแลนด์จะพยายามรักษาแรงกดดันต่อไป แต่แนวรับของพวกเขาก็ถูกเจาะได้สำเร็จหลังจากพักครึ่ง 9 นาที โดยเฟอร์นันเดสฉลองวันเกิดอายุครบ 30 ปีด้วยการจบสกอร์แบบสุดสวยจากระยะ 20 หลา
ลูกยิงเรียดของเฟลิกซ์ในนาทีที่ 78 ก่อนที่โรนัลโด้จะเกือบทำประตูชัยได้สำเร็จเมื่อโหม่งบอลไปชนเสาไกล
แต่โรนัลโด้มีสิทธิ์ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเมื่อเขาเหยียดขาออกไปในกรอบเขตโทษเพื่อเปลี่ยนลูกครอสของนูโน่ เมนเดสเข้าประตู
สตีฟ คลาร์กไม่สามารถขออะไรจากทีมได้มากกว่านี้ในครึ่งแรก เพราะพวกเขายิงประตูได้จากโอกาสเพียงครั้งเดียว แต่ยังป้องกันได้อย่างเด็ดเดี่ยว โดยโปรตุเกสมีโอกาสยิงถึง 16 ครั้ง (เข้ากรอบ 3 ครั้ง) และสร้างโอกาสให้ทีมทำประตูได้ 1.21 ประตู
ผู้สร้างเกมอย่างสม่ำเสมอคือสิ่งที่ทำให้เซเลเซากลับมามีมาตรฐานอีกครั้ง โดยที่เฟอร์นันเดสมีส่วนร่วมกับประตูเป็นครั้งที่ 21 ภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต มาร์ตีเนซในทุกรายการ มากกว่าผู้เล่นโปรตุเกสคนอื่นๆ อย่างน้อย 5 ประตู (11 ประตู 10 แอสซิสต์)
และตอนนี้โรนัลโด้ก็ทำประตูในอาชีพไปแล้ว 901 ประตู โดยมีเพียงอเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (14), เออร์ลิง ฮาลันด์ (12) และโรเมลู ลูกากู (10) เท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่า 9 ประตูในเนชั่นส์ลีก