ประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของอังเคล คอร์เรอา ช่วยให้แอตเลติโก มาดริด เสมอกับคู่แข่งร่วมเมืองในศึกมาดริด ดาร์บี้ ที่สนามเมโทรโปลิตาโน
ในสนามแอตเลติโกที่เต็มไปด้วยผู้คนและการแข่งขันที่เข้มข้น เกมเริ่มต้นขึ้นอย่างมีชั้นเชิง โดยทั้งสองฝ่ายพยายามสกัดกั้นทุกความพยายามในการหาประตูในช่วงแรก
ชูเลียน อัลวาเรซ นักเตะใหม่ในเกมมาดริด ดาร์บี้ มองเห็นโอกาสแรกของเกมในนาทีที่ 9 เมื่อเขาหลบอันโตนิโอ รือดิเกอร์ และยิงยัดมุมแคบใส่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่ก็โดนเซฟเอาไว้ได้
สำหรับทีมเยือน พวกเขาใช้เวลามากกว่า 17 ปีในการทดสอบยาน โอบลัคด้วยการยิงไกลจากเฟเดริโก บัลเบร์เด ซึ่งผู้รักษาประตูชาวสโลวีเนียรับไว้ได้อย่างใจเย็น
การปะทะกันอย่างดุเดือดในครึ่งแรกทำให้เกมดำเนินไปอย่างสนุกสนานแต่ก็ไม่มีสกอร์และขาดความต่อเนื่อง โดยจู๊ด เบลลิงแฮมพยายามเซฟลูกยิงของเรอัลในขณะที่เจ้าบ้านยังคงถามคำถามต่างๆ มากมาย
ครึ่งหลังเริ่มต้นในลักษณะเดียวกันกับครึ่งแรก โดยโรดรีโก้พยายามส่งลูกจ่ายของโมดริชข้ามขอบกรอบเขตโทษ แต่แข้งทีมชาติบราซิลกลับยิงข้ามคานไปเอง
แอตเลติโก เปลี่ยนตัวผู้เล่นในช่วงต้นเกม และพวกเขาก็ขึ้นนำทันทีหลังจากครบ 100 นาทีจากเอแดร์ มิลิเตา ลูกครอสของ วินิซิอุส จูเนียร์ จากทางขวาไปโดนเท้าของกองหลังบราซิลที่เสาหลัง เขาควบคุมบอลอย่างใจเย็นก่อนจะซัดประตูแรกของมาดริดเข้าไป
ประตูดังกล่าวทำให้เกิดความตึงเครียดบนอัฒจันทร์ และผู้ตัดสิน มาเตโอ บุสเกตส์ พาผู้เล่นออกจากสนามก่อนปล่อยให้เกมดำเนินต่อไปหลังจากผ่านไป 20 นาที
เจ้าบ้านออกสตาร์ทในช่วงท้ายเกมและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเรอัลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โดยยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงท้ายเกมของฤดูกาลนี้ คอร์เรอา ได้บอลทะลุช่องของ ฆาบี กาลัน และจบสกอร์ได้อย่างสวยงามหลังจากผ่านผู้รักษาประตูชาวเบลเยียมของเรอัลไปได้