บาร์เซโลน่าถล่มเรอัล โซเซียดาด 10 คน 4-0 ที่สนามเอสตาดิ โอลิมปิก ลูอิส คอมปานีส เมื่อวันอาทิตย์ ชัยชนะครั้งนี้ทำให้บาร์เซโลน่าขึ้นเป็นจ่าฝูงลาลีกา โดยมีแต้มนำแอตเลติโก มาดริด 2 แต้ม อาริตซ์ เอลุสตันโด ของเรอัล โซเซียดาด ถูกไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 17 และบาร์เซโลน่าก็ใช้ประโยชน์จากตัวเลขที่นำอยู่ได้อย่างเต็มที่
เจอราร์ด มาร์ติน ยิงประตูแรกให้กับบาร์เซโลน่าในนาทีที่ 25 โดยมาร์ก คาซาโด ยิงเพิ่มเป็น 2 ประตูในอีก 4 นาทีต่อมา ทั้งสองประตูได้รับการจ่ายจากดานี่ โอลโม ซึ่งเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โรนัลด์ อาราอูโฆ ยิงเพิ่มเป็น 3 ประตูในนาทีที่ 56 จากลูกโหม่งของราฟินญ่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูที่ 21 ในลีกของฤดูกาลนี้ในนาทีที่ 60
ชัยชนะครั้งนี้เป็นผลงานที่โดดเด่นของบาร์เซโลน่า โดยครองบอลได้ 67% และยิงเข้ากรอบ 23 ครั้ง ในขณะที่เรอัล โซเซียดาดกลับสร้างโอกาสได้ไม่เต็มที่ โดยยิงตรงกรอบได้เพียง 2 ครั้ง ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะในบ้านครั้งที่ 17 ติดต่อกันของบาร์เซโลน่าในลาลีกา ซึ่งย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
ชัยชนะของบาร์เซโลน่ายังช่วยกระตุ้นความหวังในการคว้าแชมป์ของพวกเขาได้อย่างมาก เนื่องจากพวกเขาขยับขึ้นนำแอตเลติโก มาดริดไป 2 คะแนน ในขณะเดียวกัน เรอัล โซเซียดาดยังคงอยู่ในอันดับที่ 9 ห่างจากกลุ่มท็อปโฟร์ 10 คะแนน ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ของเรอัล โซเซียดาด ซึ่งจะพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยูโรปาลีกในวันพฤหัสบดีนี้
ในแมตช์นี้ ฟลิก ผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่ายังทำการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นหลายคน โดยส่งราฟินญ่า เปดรี และเปา คูบาร์ซี ลงสนามแทนเฟรงกี้ เดอ ยอง เอริก การ์เซีย และเฟร์ราน ตอร์เรส การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลดี เพราะผู้เล่นสำรองของบาร์เซโลน่ามีส่วนสำคัญในการคว้าชัยชนะครั้งนี้ ด้วยชัยชนะครั้งนี้ทำให้บาร์เซโลน่าขยับขึ้นไปอยู่อันดับสูงสุดของตารางคะแนนลาลีกา และพวกเขาจะพยายามรักษาโมเมนตัมนี้เอาไว้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเบนฟิก้าในแชมเปี้ยนส์ลีกในวันพุธ
คู่ปรับร่วมเมืองอย่างเรอัลมาดริดแพ้ให้กับเรอัลเบติสไป 2-1 เมื่อวันเสาร์ และแอตเลติโกมาดริดก็เอาชนะบิลเบาไปได้ 1-0