บาเยิร์น มิวนิค ขยายสถิติเฮดทูเฮดของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (UCL) ในเกมพบบาร์เซโลนาเป็นชัยชนะห้านัดติดต่อกันด้วยผลงานครึ่งหลังที่น่าเกรงขามเพื่อรวบรวมชัยชนะ 2-0 นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของบาร์ซ่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยจบการไร้พ่าย 14 นัดติดต่อกัน
บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะ บาร์เซโลน่า ในรอบแบ่งกลุ่มครั้งแรกตั้งแต่ปี 2000/01 ด้วยการชนะ 3-0 ที่บ้านในเกมนัดสุดท้ายเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ด้วยตำนานของสโมสรอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่กำลังค้าแข้งกับบาร์ซ่า มันไม่ง่ายเลยที่จะ เอาชนะเครื่องแต่งกายที่กระปรี้กระเปร่า
ผู้มาเยือนใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการสร้างความแข็งแกร่ง ขณะที่มิดฟิลด์ดาวรุ่ง เปดรี บังคับให้มานูเอล นอยเออร์ เซฟได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเท้าซ้ายของเขา
การกลับมาของเลวานดอฟสกี้ในบ้านเดิมของเขาเกือบจะได้ผลตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อเขาส่งลูกวอลเลย์ไปเหนืองานไม้หลังจากกาบีจ่ายบอลได้อย่างสวยงาม ก่อนจะผงกหัวไปทางนอยเออร์จากระยะยิงที่จุดเปล่า
เนื่องจาก บาเยิร์น มิวนิค พยายามดิ้นรนเพื่อแกะรอย ซึ่งบางทีอาจได้รับอิทธิพลจากฟอร์มการเล่นที่อ่อนโยนของพวกเขา มาร์๋เซล ซาบิตเซอร์ ก็เข้ามาใกล้เพื่อขยับโมเมนตัมอย่างลำบากใจหลังจากทำเวลาครึ่งชั่วโมงเมื่อลูกยิงจากนอกกรอบเขตโทษผ่านเสาด้านซ้าย
บาร์เซโลน่า โดนนำไปก่อน ในนาทีที่ 50 จาก ลูคัส เอร์นานเดซโหม่งลูกโหม่ง เข้าไปให้ บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำ
ตามจังหวะหลังโจชัว คิมมิชเข้าโค้งเพื่อนำบาเยิร์นไปนั่งในที่นั่งคนขับ ก่อนที่เลรอย ซาเน่จะวิ่งเดี่ยวและจบสกอร์อย่างคล่องแคล่วเพื่อส่งบอลให้ อัลลิอันซ์ อารีน่า
เลวานดอฟสกี้ วิ่งอย่างคล่องแคล่วและฉลาดหนึ่งต่อสองทำให้เปดรีทำประตูได้ชัดเจนในชั่วโมงแรก เพียงแต่เห็นการสัมผัสที่โฉบเฉี่ยวของเขากระเด็นออกจากเสา ซึ่งทำให้โค้ชชาบี เอร์นานเดซผิดหวังมาก
แม้จะพยายามทำประตูตีตื้นแต่ บาร์เซโลน่า ก็ต้องกลับสเปนมือเปล่า แม้ว่าเกมนี้พวกเขาจะเล่นได้ดีก็ตาม