ฝรั่งเศส สร้างปาฏิหาริย์ ด้วยการพลิกกลับมาชนะ เบลเยี่ยม หลังจากโดนนำไปก่อนสองประตูในคืนวันพฤหัสบดีที่ตูริน
ชัยชนะดังกล่าวยังส่งแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ไปสู่รอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในวันอาทิตย์ที่ ซาน ซิโร กับ สเปน
ก่อนเริ่มเกม เบลเยี่ยม ชนะสามเกมล่าสุด และพวกเขาดูสดใสกว่าของทีมในครึ่งแรกขณะที่พวกเขาขึ้นนำโดยยานนิค คาร์ราสโก้ และโรเมลู ลูกากูในครึ่งแรก
คาร์ราสโซ่ ของ แอตฯ มาดริด ยิงประตูในนาทีที่ 37 เพื่อให้กับทีมของ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ และอีกสามนาทีได้ประตูเพิ่มจาก โรเมลู ลูกากู ของ เชลซี
ครึ่งหลัง คาริม เบนเซม่า ยิงประตูตีตื้นให้กับ ฝรั่งเศส ในนาทีที่ 62 ถัดมาอีก 7 นาที คิลิยัน เอ็มบัปเป้ มาตีเสมอให้กับ ฝรั่งเศส เป็น 2-2 ในนาทีที่ 69
โรเมลู ลูกากู คิดว่าเขาทำประตูชัยให้กับผู้ชนะโดยเหลือเวลาอีกสามนาทีให้ลงเล่น แต่หลังจากการตัดสินใจของ VAR ที่จะคว่ำประตูเพื่อการล้ำหน้า ธีโอ เอร์นานเดซ ปราการหลังของเอซี มิลาน ก็คว้าชัยชนะกลับมาได้ในนาทีสุดท้าย
ชัยชนะครั้งนี้เป็นการทำซ้ำของการแข่งขันรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างทั้งสองฝ่ายซึ่งฝรั่งเศสก็ชนะเช่นกัน
ทีมของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ จะเจอกับ สเปน ที่เอาชนะ อิตาลี มา โดยทั้งคู่จะเจอกันที่ ซาน ชิโร่
สเปน ชนะ อิตาลี 2-1 โดย สเปน ได้ประตูจาก เฟร์ราน ตอร์เรส ขณะที่ อิตาลี เหลือ 10 ตัวหลังจาก เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ในครึ่งแรก
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศครั้งแรกเกิดขึ้นระหว่างโปรตุเกสและเนเธอร์แลนด์ในปี 2019 ซึ่งโปรตุเกสชนะ
ในขณะเดียวกันการแข่งขันนัดที่สามที่เกี่ยวข้องกับเบลเยียมและอิตาลีจะเล่นในวันอาทิตย์ที่ตูรินด้วย