ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง 0-1 ในเลกแรก เข้ารอบชิงชนะเลิศลีกคัพได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะท็อตแนม ฮอทสเปอร์ 4-0 ที่แอนฟิลด์ หงส์แดงจะพบกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่สนามเวมบลีย์ในเดือนมีนาคมนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันแชมป์และคว้าแชมป์ลีกคัพได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980
ลิเวอร์พูล บุกหนักตั้งแต่เริ่มเกม แต่แนวรับของท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ที่ได้รับการเสริมกำลังจากผู้เล่นใหม่อย่างเควิน ดานโซ ก็เหนียวแน่นในช่วงแรก อย่างไรก็ตาม เสมอกันในนาทีที่ 34 เมื่อโคดี้ กักโป ยิงประตูจากลูกเปิดของโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ลิเวอร์พูลยังคงกดดันสเปอร์สต่อไป และอันโตนิน คินสกี ก็เซฟลูกวอลเลย์ของซาลาห์ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงพักครึ่ง
หงส์แดงยังคงกดดันต่อไปในครึ่งหลัง และซาลาห์ก็ยิงจุดโทษได้สำเร็จ หลังจากดาร์วิน นูเนซ ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ลิเวอร์พูลยิงชนคานสองครั้งก่อนที่คอนเนอร์ แบรดลีย์จะจ่ายบอลผ่านโดมินิก ซอบอสซ์ไลเข้าไปทำประตูที่สามได้สำเร็จ ท็อตแนมต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้งเมื่อเวอร์จิล ฟาน ไดค์โหม่งทำประตูที่สี่จากลูกเตะมุมของอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของท็อตแนมที่หวังว่าจะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศและเพิ่มโอกาสในการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ อังเก้ ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการทำผลงานในเอฟเอ คัพและยูฟ่า ยูโรปา ลีก โดยเขาน่าจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยดีเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล
ชัยชนะของ ลิเวอร์พูล จะทำให้ทีมได้เข้าชิงชนะเลิศลีกคัพที่น่าตื่นเต้นกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศด้วยชัยชนะเหนืออาร์เซนอล หงส์แดงตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์ลีกคัพสมัยที่ 11 และป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ขณะที่ นิวคาสเซิล ก็ตั้งเป้าที่จะยุติการรอคอยถ้วยรางวัลสำคัญนี้ไปให้ได้ 56 ปี
นัดชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นที่เวมบลีย์ในเดือนมีนาคม และรับประกันว่าจะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นระหว่างสองทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในรายการนี้ ประสบการณ์และฟอร์มการเล่นล่าสุดของลิเวอร์พูลทำให้พวกเขาเป็นเต็งหนึ่ง แต่ทีมนิวคาสเซิลก็มุ่งมั่นที่จะสร้างความปั่นป่วนและคว้าถ้วยรางวัลสำคัญเป็นครั้งแรกในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ