ชัยชนะในการดวลจุดโทษเหนือแอตเลติโก มาดริดในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากยูฟ่าได้เริ่มการสอบสวนกรณี “ประพฤติตัวไม่เหมาะสม” ของนักเตะเรอัล มาดริด 4 คน ได้แก่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และดานี่ เซบาญอส ซึ่งกำลังถูกตรวจสอบพฤติกรรมของพวกเขาระหว่างการเฉลิมฉลอง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม
การสอบสวนมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์เฉพาะ 2 เหตุการณ์ ได้แก่ ท่าปาดคอของรือดิเกอร์ ซึ่งมีรายงานว่ามุ่งเป้าไปที่แฟนบอลแอตเลติโก และท่าจับเป้าของเอ็มบัปเป้ ซึ่งจับภาพได้จากวิดีโอที่กำลังแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย หากพบว่ามีความผิด นักเตะอาจต้องเผชิญกับการลงโทษทางวินัย รวมทั้งการพักการแข่งขัน ปรับเงิน หรือทั้งสองอย่าง
ยูฟ่าได้แต่งตั้งผู้ตรวจสอบจริยธรรมและวินัยเพื่อตรวจสอบการกระทำของผู้เล่นทั้งสี่คน และแถลงการณ์จากหน่วยงานกำกับดูแลได้ยืนยันการสอบสวนนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เล่นต้องเผชิญกับการลงโทษทางวินัยจากเหตุการณ์ที่คล้ายกัน เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว จู๊ด เบลลิงแฮม ถูกปรับเงิน 30,000 ยูโรและถูกแบนหนึ่งนัดจากการแสดงกิริยาท่าทางคล้ายกันในศึกยูโร 2024
ผลที่ตามมาจากการสอบสวนนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเตรียมการของเรอัล มาดริดสำหรับเกมแชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศที่จะพบกับอาร์เซนอล โดยเกมแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 8 เมษายน ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ส่วนเกมที่สองจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาที่ซานติอาโก เบร์นาเบว การแบนผู้เล่นทั้งสี่คนอาจทำให้โอกาสของทีมในการผ่านเข้ารอบต่อไปลดน้อยลง
เหตุการณ์ดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่แฟนบอลและนักวิจารณ์ โดยบางคนเรียกร้องให้มีการลงโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เรอัล มาดริดจะรอคอยคำตัดสินของยูฟ่าอย่างใจจดใจจ่อ โดยหวังว่าจะหลีกเลี่ยงการลงโทษทางวินัยใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อแคมเปญแชมเปี้ยนส์ลีกของพวกเขา
ผลการสอบสวนยังคงต้องรอดูกันต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือชื่อเสียงของนักเตะทั้ง 4 คนและเรอัล มาดริดโดยรวมยังคงไม่แน่นอน สโมสรจะต้องรับมือกับสถานการณ์นี้ด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเพิ่มเติมที่อาจส่งผลต่อผลงานในสนามของพวกเขา