เรอัล มาดริด ขึ้นนำ แอตเลติโกมาดริด อย่างเฉียดฉิวด้วยสกอร์รวม 2-1 ในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก หลังจากเกมที่ซานติอาโก เบร์นาเบว เกมดังกล่าวถือเป็นการปิดฉากสถิติไม่แพ้ใคร 10 เกมติดต่อกันของแอตเลติโกในทุกรายการ
เจ้าบ้านอย่างเรอัลมาดริดขึ้นนำก่อนตั้งแต่ต้นเกมจากลูกยิงสุดสวยของโรดรีโกในนาทีที่ 4 ปีกชาวบราซิลรายนี้รับลูกจ่ายจากเฟเดริโก บัลเบร์เดและวิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะยิงด้วยเท้าซ้ายผ่านมือยาน โอบลัคไปอย่างไม่สามารถหยุดยั้งได้
แอตเลติโกมาดริดตอบโต้ได้ดีในช่วงแรกเกม โดยจูลิอาโน ซิเมโอเนพลาดโอกาสทองในการตีเสมอ อย่างไรก็ตาม ฆูเลียน อัลวาเรซก็มาตีเสมอได้สำเร็จด้วยการจบสกอร์ที่น่าประทับใจ โดยแซงหน้าเอดูอาร์โด กามาวินกา และซัดลูกยิงด้วยเท้าขวาผ่านมือธิโบต์ คูร์ตัวส์ไปได้
ทีมเยือนยังคงเล่นด้วยความมั่นใจในช่วงครึ่งหลัง แต่เป็นเรอัลมาดริดที่ทำประตูสำคัญจากบราฮิม ดิอาซ นักเตะทีมชาติโมร็อกโกรายนี้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในกรอบเขตโทษและยิงผ่านโอบลัคได้อย่างเฉียบขาด
ประตูนี้ทำให้เรอัลมาดริดกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งและคุมเกมได้ตลอดช่วงที่เหลือของเกม อย่างไรก็ตาม มีโอกาสทำประตูเพิ่มเพียงเล็กน้อย ทำให้เกมยังคงสูสีก่อนเกมเลกที่สองในอีก 8 วันข้างหน้า
ความพ่ายแพ้ของแอตเลติโก มาดริดทำให้พวกเขาพลาดการคว้าชัยชนะในแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันและโอกาสที่จะทำลายสถิติการชนะรวดของสโมสรในรายการนี้ แม้จะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังคงมีโอกาสพลิกสถานการณ์ในเลกที่สองได้อยู่
ผลการแข่งขันทำให้เรอัลมาดริดได้เปรียบเล็กน้อย และมั่นใจว่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ตอนนี้พวกเขาแพ้เพียงนัดเดียวจาก 18 นัดในรอบน็อกเอาต์ของยุโรปก่อนหน้านี้ และประสบการณ์และคุณภาพของพวกเขาจะทำให้พวกเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามในเลกที่สอง
เรอัลมาดริดจะพบกับราโย บาเยกาโน่ ในลาลีกาในสุดสัปดาห์ก่อนเกมนัดที่สองในสัปดาห์หน้า