เวลส์หวังว่าจะได้รับชัยชนะในฟุตบอลโลกครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับคู่แข่งใอย่างอังกฤษในเกมที่สามและนัดสุดท้ายของกลุ่ม บี ที่ประเทศกาตาร์
ขณะที่อังกฤษชนะเกมแรกกับอิหร่าน 6-2 แต่เสมอแบบไร้สกอร์กับสหรัฐฯ เวลส์โชคไม่ดี โดยเก็บแต้มได้ในเกมสองนัดรอบแบ่งกลุ่มหลังจากแพ้อิหร่าน 0-2
ทรี ไลอ้อนส์สามารถผนึกกำลังเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ด้วยผลเสมอ ขณะที่ เวลส์ต้องชนะเท่านั้น และไปลุ่นให้ อิหร่านและสหรัฐอเมริกาเสมอกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายจะพบกันตั้งแต่นัดกระชับมิตรทีมชาติที่สนามเวมบลีย์ในเดือนตุลาคม 2020 แต่สถิติที่ผ่านมาไม่ได้เป็นใจให้ เวลส์ เนื่องจากพวกเขาไร้ชัยชนะใน 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ และไร้ชัยชนะในการปะทะกับอังกฤษ 11 ครั้ง
ในขณะเดียวกัน อังกฤษเสมอกัน 0-0 ในฟุตบอลโลกมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกทีม โดยมี 12 ในนั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ทีมจะถูกโห่ในเกมที่แล้วเพราะผลงานที่ย่ำแย่
บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้เรียกร้องให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ใช้งาน ฟิล โฟเด้น เพื่อช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นและแสดงออกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุว่าผลงานที่ย่ำแย่ของทีมจะถูกลืมไปหากผลงานในเกมต่อๆ ไปดีขึ้น
นอกจากนี้เขายังระบุด้วยว่าทั้งทีมตระหนักถึงความไม่พอใจของแฟน ๆ กับการแสดงของพวกเขา
“ผมรู้สึกว่าถ้าเราเล่นได้ดีในเกมต่อไป เกมนั้นของอเมริกาจะถูกลืม มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี แต่พูดตามตรง เราไม่ต้องการให้แฟนบอลโห่เราที่รู้ว่าเราเล่นได้ไม่ดี มันคือ ความรู้สึกที่มีร่วมกันในกลุ่ม – ว่าเราทำได้ดีกว่านี้” แรชฟอร์ด กล่าว