เชลซีโชว์ฟอร์มน่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งในยุโรปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยการถล่มบาร์เซโลนาที่เหลือ 10 คน 3-0 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
ชัยชนะครั้งนี้พาทีมจากพรีเมียร์ลีกขึ้นสู่อันดับ 4 ของตาราง และพร้อมลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 3 นัด
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อบาร์เซโลนาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ที่ทีมแชมป์ยุโรป 5 สมัยไม่สามารถฟื้นคืนฟอร์มได้
เชลซีฉวยโอกาสอย่างเต็มที่ ครองเกม และเอาชนะทีมเยือนด้วยความเร็ว การเพรสซิ่ง และการจบสกอร์ที่เฉียบคม
เอสเตวา นักเตะดาวรุ่งวัย 18 ปี สร้างความฮือฮาด้วยการทำประตูเดี่ยวสุดสวย ฝ่าแนวรับเข้าไปก่อนจะซัดประตูเข้าไป
ก่อนจะยิงประตูในครึ่งหลัง จูลส์ คุนเด กองหลังบาร์เซโลนา ได้ทำเข้าประตูตัวเองก่อนหมดเวลาครึ่งชั่วโมง ทำให้เชลซีขึ้นนำ เลียม ดีแลป ยิงประตูชัยในนาทีที่ 73
หลังจบการแข่งขัน เอสตาเวา ยอมรับว่าเขา “พูดไม่ออก” และกล่าวว่าช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา ครอบครัวของเขาอยู่บนอัฒจันทร์เพื่อเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์สำคัญนี้ ซึ่งยิ่งตอกย้ำความรู้สึกนี้ให้มากขึ้นไปอีก
เชลซีครองความยิ่งใหญ่ได้ทั่วสนาม โดยมาร์ก คูคูเรลลา กองหลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนแฟนๆ หลายคนยกย่องให้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์
เลียม ดีแลป และกองหน้าคนอื่นๆ ของเชลซี สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของบาร์เซโลนาที่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ทีมเยือนก็พยายามสร้างโอกาสทองหลังจากโดนใบแดง
เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลาดังขึ้น แฟนบอลเชลซีต่างเฉลิมฉลองชัยชนะอันโดดเด่นและเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำ ขณะที่บาร์เซโลนาต้องรำลึกถึงความพ่ายแพ้ที่ทำให้พวกเขายังคงรั้งอันดับ 7 คะแนน และต้องเผชิญหน้ากับความเป็นไปได้ที่จะเข้ารอบเพลย์ออฟ
สำหรับเชลซี ความมั่นใจกำลังกลับมาอีกครั้ง หนึ่งเดือนหลังจากพ่ายแพ้ต่อซันเดอร์แลนด์ในบ้าน ตอนนี้พวกเขาดูเหมือนเป็นคู่แข่งตัวจริงในยุโรปอีกครั้ง














