แลนโด นอร์ริสทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรายการสิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ โดยคว้าชัยชนะเป็นครั้งที่ 3 ในอาชีพ โดยเอาชนะแม็กซ์ เวอร์สแตปเพนได้สำเร็จ
นอร์ริสเริ่มต้นจากตำแหน่งโพลโพซิชันและครองสนามแข่งบนถนน พิสูจน์ให้บรรดาผู้ไม่เห็นด้วยเห็นผิดด้วยการเปลี่ยนตำแหน่งโพลโพซิชันเป็นชัยชนะในการแข่งขันได้อย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้วถือเป็นวันที่ดีสำหรับแม็คลาเรน เนื่องจากออสการ์ เปียสตรี นักขับคนที่สองของทีมเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 และขึ้นโพเดี้ยมได้สำเร็จ
แดเนียล ริคคาร์โด ซึ่งลงแข่งขันในรายการที่อาจเป็นรายการสุดท้ายของฤดูกาลนี้ เก็บคะแนนจากการวิ่งรอบเร็วที่สุดได้ แม้ว่าเขาจะจบการแข่งขันในอันดับที่ 18 ก็ตาม
ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน นอร์ริสพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักขับที่ต้องเอาชนะให้ได้ การออกสตาร์ทที่ไร้ที่ติของเขาทำให้เขารักษาตำแหน่งผู้นำเอาไว้ได้ ขณะที่ทีมแม็คลาเรนของเขาใช้กลยุทธ์ที่สมบูรณ์แบบซึ่งทำให้เขาอยู่เหนือคู่แข่ง
ตลอดการแข่งขัน เขาดูมีสมาธิและควบคุมสถานการณ์ได้ดี แม้ว่าเขาจะเฉี่ยวกับสิ่งกีดขวางถึง 2 ครั้งก็ตาม แม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ นอร์ริสยังคงมีสมาธิและตั้งสติได้ และสามารถรับมือกับการแซงจากด้านหลังได้
แม็กซ์ เวอร์สแตปเพนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแต่ก็ไม่สามารถตามทันความเร็วที่นอร์ริสทำได้ เซร์คิโอ เปเรซ เพื่อนร่วมทีมของเวอร์สแตปเพนต้องเผชิญกับความยากลำบากและจบลงด้วยคะแนนที่น้อยกว่า ผลงานนี้ถือเป็นแรงผลักดันที่สำคัญสำหรับแม็คลาเรนในการชิงแชมป์กลุ่มผู้ผลิต เนื่องจากปัจจุบันพวกเขารั้งตำแหน่งจ่าฝูงโดยมีคะแนนนำ 41 คะแนน
การไล่ล่าตำแหน่งแชมป์โลกของนอร์ริสต้องพบกับอุปสรรค แม้ว่าช่องว่างระหว่างคะแนนนำของเวอร์สแตปเพนจะลดลงเหลือ 52 คะแนนก็ตาม แม้ว่านักขับชาวอังกฤษคนนี้จะทำผลงานได้ดีกว่าเวอร์สแตปเพนในการแข่งขันล่าสุด แต่เวอร์สแตปเพนก็มีเส้นทางสู่ชัยชนะที่ชัดเจนกว่า แม้ว่าสิ่งที่เขาทำได้คือจบอันดับสองในการแข่งขันที่เหลือของฤดูกาลนี้ก็ตาม
ดังนั้นนี่หมายความว่า นอกเหนือจากการที่ นอร์ริส มีโอกาสที่จะชนะการแข่งขันที่เหลือ ซึ่งได้แก่ กรังด์ปรีซ์ 5 รายการและ สปริ้นท์ 1 รายการแล้ว การพยายามทำให้ เวอร์สแตปเพน ไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยมก็ยังเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ Norris คว้าแชมป์โลกได้เป็นสมัยแรกด้วย ซึ่งจะต้องอาศัยความพยายามของทีม