DafaNews รายงานว่า ในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาจนใกล้จะถึงปลายปี คนไทยได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารอบปฏิทินที่เกิดขึ้นของวงการเทคบอล ทั้งนักกีฬาประเภทชาย หรือหญิงนั้นไม่ได้ถูกจับตามองในฐานะม้ามืดในกีฬาชนิดนี้อีกต่อไป จากผลงานต่าง ๆ ที่แสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ ทำให้การแข่งขันศึกเทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 หรือ World Teqball Championships 2023 พวกเขาและเธอถูกตั้งคำถามถึงความคาดหวังการได้ลงแข่งขันในศึกใหญ่เช่นนี้ในบ้านของตัวเอง

เรียกได้ว่าเหลือเพียงไม่กี่อึดใจ โลกของวงการเทคบอล จะจับตามองมาที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่จัดทัวร์นาเมนท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการอย่างศึก “เทคบอลชิงแชมป์โลก 2023” (World Teqball Championships 2023) โดยที่บรรดานักกีฬาที่เก่งที่สุดในโลก รวมถึงบรรดาตัวเต็งต่าง ๆ จะเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันกันเพื่อชิงชัยตำแหน่งที่ถือที่เป็นที่สุดของกีฬานี้

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากบรรดานักกีฬาตัวเต็งที่เป็นบิ๊กเนมในการแข่งขันของแต่ละประเภท ก็ยังมีผู้เล่นบางคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นม้ามืดในการแข่งขันเช่นกัน ยังไม่นับรวมถึงนักกีฬาไทยที่ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นม้ามืดในกีฬาชนิดนี้อีกต่อไป เพราะพวกเขาและเธอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสามารถต่อสู้เพื่อชัยชนะไม่ว่าจะไปแข่งขันที่ไหนก็ตาม เพียงแต่ว่าครั้งนี้พวกเขาไม่ต้องออกเดินทางไปไหน เพราะโลกที่เหลือก็จะมาหาพวกเขาและพวกเขาจะได้เปรียบในการเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนๆ

สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ และพักตร์พงษ์ เดชเจริญ ปรากฏตัวบนเวทีในระดับนานาชาติของวงการเทคบอลในศึกชิงแชมป์โลกตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ก่อนจะสร้างความนิยมอย่างต่อเนื่อง

สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ พร้อมด้วย อารียา หอมดี สามารถผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้ในการแข่งขันศึกชิงแชมป์โลก หรือ World Teqball Championships ประเภทหญิงคู่เมื่อปีที่แล้ว แต่การเดินทางของพวกเธอ กลับต้องสิ้นสุดลงด้วยฝีมือของ แคโรไลน์ เกรโค และมาร์กาเร็ต ออสมุนด์สัน คู่สองสาวจากสหรัฐฯ ที่สามารถก้าวขึ้นไปคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ หยิบเหรียญเงินในการแข่งขันครั้งนั้น

ขณะเดียวกัน เส้นทางของ พักตร์พงษ์ เดชเจริญ และคู่หูของเขา อุเทน กู้เขียว ก็คล้ายกันเมื่อพวกเขาถูกหยุดในรอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยคู่นักกีฬาจากฮังการี ต้นตำรับกีฬาชนิดนี้อย่าง อดัม บลาซโซวิคช์ และ อดัม บาโก ที่สองหนุ่มจากดินแดนม็อจยอร์คว้าตำแหน่งรองแชมป์

แม้ว่าการแข่งขันในชิงแชมป์โลกเมื่อ 2022 นักกีฬาเทคบอลไทยจะไม่ได้เหรียญรางวัล แต่การปรากฏตัวในการแข่งขันระดับนานาชาติก็ทำให้คู่แข่งจากหลายชาติต่างต้องหันมามองและจับตานักกีฬาจากดินแดนสยาม

นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อปฏิทินขยับเข้าสู่ปี 2023 สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ และพักตร์พงษ์ เดชเจริญ ที่ผนึกกำลังร่วมกันเป็นครั้งแรกในระดับนานาชาติ ประเภทคู่ผสม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งสองคนสามารถสร้างความตกตะลึงให้กับการแข่งขัน เมื่อไม่มีใครสามารถหยุดความร้อนแรงของเขาและเธอได้ ก่อนจะผงาดคว้าเหรียญทองแรก ชูธงไทยให้ระดับนานาชาติได้รู้จัก สร้างความประหลาดใจให้กับวงการเทคบอล เหมือนกับที่ “พักตร์พงษ์” ก็ไม่ได้คาดหวังถึงผลลัพธ์ก่อนการแข่งขันไว้เช่นนั้น

DafaNews รายงานว่า การก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ในรายการนี้ ทำให้นักกีฬาจากไทยเริ่มถูกจับตามองจากความเป็นน้องใหม่และม้านอกสายตา ก่อนที่ความร้อนแรงจะฉายแสงความต่อเนื่องในศึกเทคบอล ทัวร์ เมื่อเดือน ส.ค.2023 เมื่อทัวร์มาจัดการแข่งขันในเอเชีย โดยเฉพาะที่ชิงเต่า ประเทศจีน ผลงานของนักกีฬาไทยที่ลงแข่งขัน สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการก้าวไปคว้า 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และอันดับ 4 จากทั้งหมด 3 ประเภทที่เข้าแข่งขัน

เริ่มจากประเภทหญิงคู่ที่สาวไทย 2 ทีมเข้าชิงชนะเลิศกันเอง ก่อนจะเป็นคู่ของสุภาวดี วงศ์คำจันทร์ และจุฑาทิพย์ กันทะธง เอาชนะคู่ของอารียา หอมดี กับจริยา สีสวาท ไปได้ ก่อนที่ “สุภาวดี” จะมาเพิ่มเหรียญชนะเลิศของตัวเองเมื่อจับคู่ พักตร์พงษ์ เดชเจริญ คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทคู่ผสม ด้วยการชนะคู่ของซาบา บานยิค กับซาเน็ตต์ ยานิคเซ็ค จากฮังการี แต่ในประเภทชายคู่ “พักตร์พงษ์” ที่ผนึกกำลังกับอุเทน กู้เขียว ต้องแพ้ให้กับความร้อนแรงต่อดูโอชายแห่งปีอย่างบานยิค และบาลาสซ์ แคตซ์ ทำให้ได้เพียงรองแชมป์ เช่นเดียวกับในเกมชิงอันดับ 3 ประเภทคู่ผสม “อุเทน” กับ “จุฑาทิพย์” ต้องแพ้ให้กับแคตซ์ ที่จับคู่คินกา บาราบาซี่ จากโรมาเนีย

แต่นั่นก็เพียงพอให้นักกีฬาจากเทคบอลทั่วโลกไม่ได้มองไทยเป็นม้านอกสายตาอีกต่อไป เพราะหลังจากนั้นในศึกเทคบอล ทัวร์ ที่มาจัดขึ้นยังเกาะสมุย ประเทศไทย นักเทคบอลดินแดนสยามสามารถคว้าได้อีก 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง และอันดับ 4 อีกหนึ่งตำแหน่ง

ประเภทหญิงคู่ยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยมจากการผนึกกำลังของสุภาวดี วงศ์คำจันทร์ และจุฑาทิพย์ กันทะธง ที่คว้ารางวัลชนะเลิศได้ ขณะที่ประเภทชายคู่ต้องอกหักอีกครั้งเมื่อต้านทานความแข็งแกร่งของบานยิค และแคตซ์ จากฮังการีไม่ได้ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งครั้งนี้คู่ชายไทยที่ได้รองแชมป์คือ สรศักดิ์ เทาศิริ จับคู่กับจีรติ จันทร์เลียง

ด้าน 3 เหรียญทองแดงมาจากอุเทน กู้เขียว กับพักตร์พงษ์ เดชเจริญ ที่ชนะคู่จากโรมาเนียอย่างอาปอร์ จอร์จีเดค กับซาบอลซ์ อิลเยส ในเกมชิงอันดับ 3 ขณะที่อารียา หอมดี กับจริยา สีสวาท ก็ชนะคู่สาวจากบราซิล-สหรัฐฯ ไปได้ ส่วนในประเภทคู่ผสมเป็นการพบกันเองของนักกีฬาไทยที่คู่ของสุภาวดี วงศ์คำจันทร์ กับพักตร์พงษ์ เดชเจริญ เอาชนะคู่ของจีรติ จันทร์เลียง กับจริยา สีสวาท

เรียกได้ว่าปี 2023 นักกีฬาเทคบอลไทยสามารถทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกในกีฬาชนิดนี้ ซึ่งนอกจากความสำเร็จแล้ว นักเทคบอลไทยยังสามารถดึงดูดแฟน ๆ เข้ามาได้เพิ่มเติมด้วยสไตล์การเล่นอันน่าทึ่ง โดยเฉพาะการฟาดแบบจักรยานอากาศที่มีพื้นฐานมาจากเซปักตะกร้อ กีฬาที่ถือกำเนิดจากมาเลเซียมาราว 500 ปี และกลายเป็นรากฐานสำคัญสำหรับผู้เล่นที่ผันตัวมาเล่นกีฬาเทคบอลทั้ง สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ และพักตร์พงษ์ เดชเจริญ ซึ่งเรื่องนี้ “พักตร์พงษ์” กล่าวว่า

“พื้นฐานของเซปักตะกร้อจะคล้ายกับ เทคบอล เพราะคุณต้องควบคุมลูกบอลไม่ให้ตกพื้นเหมือนในกีฬาเซปักตะกร้อ ซึ่งถือว่าใช่ในความคิดของผม เพราะมันเป็นสไตล์การเล่นที่โดดเด่น และที่สำคัญ ผมคิดว่าเราควรเล่นกีฬาที่มีการผสมผสานทั้งความแข็งแกร่งและสวยงาม”

ขณะเดียวกัน ปูมหลังของพักตร์พงษ์ เดชเจริญ ก่อนที่โค้ชจะมาแนะนำให้เขาทดลองเล่นกีฬาเทคบอล ในช่วงเวลาที่เขาเล่นเซปักตะกร้อ ที่ตัวเขาเองยังเล่นกีฬาอื่น ๆ อย่าง มวย และฟุตบอลด้วย ซึ่งนักเทคบอลไทยรายนี้มองว่า “เทคบอล” กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย

ซึ่งแน่นอนว่า การแข่งขันเทคบอลชิงแชมป์โลก หรือ World Teqball Championship 2023 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย จะยิ่งทำให้เกิดการความตื่นตัวและจุดประกายไปในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนประเทศบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีความหมายมาก รวมถึงโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ทำให้พวกเขามีความรู้สึกพิเศษ มีความสุข ตื่นเต้น และภูมิใจที่ได้เล่นเป็นตัวแทนของประเทศไทยในฐานะนักกีฬา โดยที่ปัจจุบัน “พักตร์พงษ์” รับราชการทหารด้วย ขณะที่ “สุภาวดี” เป็นนักกีฬาอาชีพ

“ผมรู้สึกถึงสองสิ่ง ความกดดันและแรงจูงใจในการเล่นที่บ้าน ซึ่งผมคาดหวังจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” นักเทคบอลชายไทย กล่าว

ส่วนบรรยากาศการแข่งขันที่จะจัดขึ้นที่ประเทศไทยนั้น นอกเหนือจากสมาชิกในครอบครัวที่จะตามมาคอยส่งเสียงเชียร์บนอัฒจันทร์ ก็ยังมีแฟน ๆ จำนวนไม่น้อยที่คาดว่าจะเข้ามาร่วมงาน และสร้างความฮือฮาให้โหมกระพือในกรุงเทพ ฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน

“มีแฟน ๆ เข้ามาถามผมว่า ศึกเทคบอลชิงแชมป์โลกจะจัดการแข่งขันที่ไหน และทีมของเราเป็นยังไงบ้าง” พักตร์พงษ์ เดชเจริญ ปิดท้ายถึงทัวร์นาเมนท์เทคบอชิงแชมป์โลก 2023 ที่จะเปิดฉากแข่งขันขึ้นที่สนามกีฬาหัวหมาก และบางกอก อารีน่า ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2566 นี้

ขณะเดียวกัน พักตร์พงษ์ เดชเจริญ และสุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ก็มีโอกาสอันดีในการทำคะแนนอันดับโลกให้สูงขึ้นไปอีก โดยที่ล่าสุด “พักตร์พงษ์” มีคะแนนสะสมเท่ากับอุเทน กู้เขียว ที่อันดับ 29 ของโลกในประเภทชายคู่ ส่วน “สุภาวดี” รั้งอยู่ในอันดับ 16 ของโลกในประเภทหญิงคู่ ขณะที่ทั้งสองคนยังมีคะแนนสะสมในประเภทคู่ผสมในอันดับ 31 ของโลกอีกด้วย

สำหรับศึกเทคบอลชิงแชมป์โลก 2023 ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย ก็นับเป็นโอกาสอันดีที่นักกีฬาจากไทยจะหมายมั่นปั้นมือไปสู่ความสำเร็จได้ เนื่องจากทัวร์นาเมนท์ชิงแชมป์โลกยังไม่เคยมีนักเทคบอลจากทวีปเอเชียรายใดสามารถทำได้ ซึ่ง สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ และพักตร์พงษ์ เดชเจริญ ก็ถือเป็นความหวังเทคบอลไทย และถือเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่มีโอกาสจะเขียนหน้าประวัติศาสตร์ของตนเองและประเทศชาติได้เช่นกัน

DafaNews เป็นเว็ปไซต์กีฬาออนไลน์แบบครบวงจรที่คุณสามารถค้นหาข่าวประจำวันของคุณในโลกแห่งกีฬา DafaNews นำเสนอข่าวเด่นข่าวดังทุกวงการกีฬาเพื่อให้คุณได้รับอัพเดตวันต่อวันกับแมตช์, สกอร์, ตารางแข่งขัน และเรื่องราวล่าสุดจากลีกและกิจกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดทั่วโลก