โคโค่ กอฟฟ์ และคาร์ลอส อัลการาซ คว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยวประจำปีนี้ หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่โรลังด์ การ์รอส
กอฟฟ์ วัย 21 ปี เอาชนะอารีนา ซาบาเลนกา มือวางอันดับหนึ่งของโลกไปได้ด้วยคะแนน 6-7(5), 6-2, 6-4 ในแมตช์ 3 เซ็ตสุดตื่นเต้น
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกบนคอร์ตดิน และเป็นแชมป์ประเภทเดี่ยวรายการใหญ่ครั้งที่สองของเธอ เส้นทางสู่การคว้าถ้วยรางวัลของกอฟฟ์นั้นไม่ไร้ข้อกังขา ในสุนทรพจน์ชัยชนะของเธอที่คอร์ตฟิลิปป์-ชาเทรียร์ เธอได้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันคิดจริงๆ ว่าตัวเองทำไม่ได้”
ซาบาเลนกาคว้าเซ็ตแรกด้วยไทเบรกที่สูสีด้วยคะแนน 7-6(7-5) หลังจากไล่จี้จากที่ตามอยู่ 1-4 อย่างไรก็ตาม เกมของ ซาบาเลนก้า เริ่มสั่นคลอนด้วยความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจในเซตที่สอง ทำให้ กอฟฟ์ สามารถควบคุมเกมได้และเอาชนะไปได้ 6-2
เซตสุดท้ายเป็นการต่อสู้ที่ตึงเครียด โดยผู้เล่นทั้งสองคนต้องแลกหมัดกัน แต่ กอฟฟ์ ก็สามารถตั้งสติได้และปิดท้ายด้วยคะแนน 6-4
กอฟฟ์ กล่าวหลังการแข่งขันว่า “ฉันต้องเจอกับความท้าทายมากมายเมื่อฉันแพ้ที่นี่เมื่อสามปีก่อน ฉันดีใจที่ได้กลับมา
หลังจากเข้าชิงชนะเลิศสามครั้ง ฉันคิดว่าฉันได้ชัยชนะที่สำคัญที่สุด นั่นคือสิ่งที่สำคัญจริงๆ” ด้วยชัยชนะครั้งนี้ กอฟฟ์ กลายเป็นผู้หญิงอเมริกันคนแรกที่คว้าแชมป์ โรลันด์ การ์รอส ได้ตั้งแต่ เซเรน่า วิลเลี่ยม ในปี 2015
ในประเภทชาย อัลการาซ เผชิญหน้ากับ ยานนิค ซินเนอร์ ในการแข่งขันที่เรียกได้ว่าเป็นรอบชิงชนะเลิศ โรลันด์ การ์รอส ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ซินเนอร์ ชนะสองเซตแรกด้วยคะแนน 6-4, 7-6(7-4) และยังมีคะแนนแชมเปี้ยนชิพถึงสามแต้มในเซตที่สี่อีกด้วย แต่ อัลการาซ ก็เซฟแมตช์พอยท์ได้ทั้งหมด 3 แมตช์ และเอาชนะไปได้ในเซ็ตที่ 4 ด้วยคะแนน 7-6 (7-3)
การแข่งขันดำเนินไปด้วยการตัดสินด้วยไทเบรกเซ็ตที่ 5 ซึ่ง อัลการาซ เซฟได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และเอาชนะไปได้ในที่สุดด้วยคะแนน 7-6 (10-2) หลังจากแข่งขันกันอย่างดุเดือดนานถึง 5 ชั่วโมง 29 นาที ทำให้เป็นรอบชิงชนะเลิศที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์เฟรนช์โอเพ่น และเป็นรอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมที่ยาวนานเป็นอันดับสองในยุคโอเพ่น
อัลการาซ วัย 22 ปี คว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้เป็นสมัยที่ 5 เท่ากับที่ ราฟาเอล นาดาล คว้าแชมป์ โรลันด์ การ์รอส ได้เป็นสมัยที่ 5 นอกจากนี้ นักหวดชาวสเปนรายนี้ยังยุติสถิติชนะรวด 31 เซ็ตติดต่อกันของ ซินเนอร์ ในศึกแกรนด์สแลมอีกด้วย