เอลีส เบน เซกีร์ ดาวรุ่งวัย 17 ปี รับบทฮีโร่ของ โมนาโก ที่ซัดประตูชัยในนาทีที่ 85 ที่สนาม สต๊าด เอบเบ้ เดส์ชองส์
โมนาโก สามารถแก้ตัวได้ในเกมนี้ หลังจากเริ่มครึ่งแรกได้ไม่น่าประทับใจ หลังจากโดน โอแซร์ขึ้นนำในเกมด้วยลูกจุดโทษ หลังจากเอเลียต มาตาโซ ทำฟาวล์ ลาสซีน ซินาโยโก้ และเป็น เอ็มบาเย่ เนียง ซัดเข้าไปไม่พลาด
แม้จะไม่น่าประทับใจ แต่โมนาโกก็หาทางกลับเข้าสู่เกมได้และมีระดับต้องขอบคุณวิสซาม เบน เยดเดอร์ กองหน้าที่ยิงตีเสมอให้กับทีมในนาทีที่ 45+3 จากจุดโทษ
หลังจบครึ่งแรก ฟิลิปเป้ เคลมองต์ นายใหญ่ของโมนาโกทำการเปลี่ยนแปลง 3 ครั้งในช่วงพักเบรกเพื่อเพิ่มพลังให้กับทีม
โมนาโก ทำการแก้เกม ถอด มาตาโซ่, เบน เยดเดอร์ และ มินามิโนะ ออก แล้วเอา โกโลวิน และ เบน เซกีร์ ลงสนามแทน
15 นาทีหลังจากลงสนามในลีกเอิง 1 ของเขา เอลีส เบน เซกีร์ นำโมนาโกนำหน้าเมื่อเขาเจาะบอลเข้าตาข่ายเมื่อเขาเข้าไปในเขตโทษจากการผ่านบอลของ โกโลวิน
อย่างไรก็ตาม โอแซร์ มาได้ประตูตีเสมอจากการทำเข้าประตูตัวเองจาก โฟฟาน่า ทำให้ โอแซร์ ตีเสมอเป็น 2-2
กองกลางซึ่งอยู่เคียงข้าง ทีมของฝรั่งเศสที่จบอันดับรองชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลโลก FIFA World Cup เพิ่งสรุปโดยสัญชาตญาณโดยสัญชาตญาณในมุมที่ไม่เป็นอันตรายของโอแซร์เพื่อให้ฝ่ายที่ถูกคุกคามจากการตกชั้นมีเส้นทางที่ไม่น่าเป็นไปได้กลับเข้าสู่การแข่งขัน
ในที่สุด เอลีส เบน เซกีร์ ก็คว้าชัยชนะได้เมื่อเขาม้วนบอลเข้าเสาไกลจากนอกกรอบโดยเหลือเวลาควบคุมเพียง 5 นาที
ดังนั้น โมนาโกจึงคว้าชัยชนะครั้งสำคัญมาได้ ต้องขอบคุณผลิตภัณฑ์ของอะคาเดมี่
ชัยชนะทำให้พวกเขาขยับไปที่อันดับห้าชั่วคราวในขณะที่ลียงเล่นในวันต่อมา
ในการแข่งขันลีกเอิง 1 อื่น ๆ น็องต์ เสมอในการไปเยือน ทรัวส์ ได้ในขณะที่พวกเขายังคงอยู่ในการสนทนาการตกชั้น
อองเช่ร์ ยังคงต่อสู้เพื่อหนีตกชั้นต่อไปในขณะที่พวกเขาพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 12 ในการแข่งขันลีกเอิง 16 นัด